message disclaimer

title

body
ไทย
  • โดเมน
  • เว็บไซต์
  • WordPress
  • โฮสติ้ง
  • การรักษาความปลอดภัยของเว็บ
  • อีเมลและ Office
  • โปรแกรมพันธมิตรทางธุรกิจ
  • เพิ่มเติม
  • ค้นหาโดเมน
  • ค้นหาชื่อโดเมน
  • ค้นหาโดเมนเป็นชุด
  • นามสกุลโดเมนแบบใหม่
  • นายหน้าโดเมน
  • ระบบตั้งชื่อโดเมน
  • บริการของโดเมน
  • การย้ายโดเมน
  • WHOIS
  • การประเมินมูลค่าโดเมน
Gd Nav Domains 2X เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโดเมน
  • เว็บไซต์ + การตลาด
  • ตัวสร้างเว็บไซต์
  • ชุดการตลาดดิจิทัล
  • การทำให้เหมาะที่สุดสำหรับโปรแกรมค้นหา
  • WordPress
  • เว็บไซต์ WordPress
Img Mega Nav Wm สำรวจตัวเลือกเว็บไซต์
  • ส่วนตัวและธุรกิจ
  • โฮสติ้ง WordPress
  • อีคอมเมิร์ซโฮสติ้งของ WordPress
  • นักออกแบบและนักพัฒนาเว็บไซต์
  • เครื่องมือจัดการเว็บไซต์
Img Mega Nav Wordpress เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ WordPress
  • เว็บไซต์โฮสติ้ง
  • เว็บโฮสติ้ง
  • โฮสติ้งธุรกิจ
  • WordPress โซลูชัน
  • โฮสติ้ง WordPress
  • อีคอมเมิร์ซโฮสติ้งของ WordPress
  • เซิร์ฟเวอร์
  • โฮสติ้ง VPS
  • เซิร์ฟเวอร์เฉพาะ
Gd Nav Hosting 2X เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโฮสติ้ง
  • SSL Certificates
  • SSL Certificates
  • OV SSL Certificate
  • DV SSL Certificate
  • SAN SSL Certificate
  • Wildcard SSL Certificates
  • การคุ้มครองเว็บไซต์
  • การรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์
  • การสำรองข้อมูลเว็บไซต์
  • วิธีการรักษาความปลอดภัย
  • คู่มือ SSL Certificate
Gd Nav Websecurity 2X เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของเว็บ
  • Productivity เเอพ
  • อีเมลสำหรับมืออาชีพ
  • Microsoft Office
Gd Nav Email 2X เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเมลและ Office
  • โปรแกรม
  • ผู้แนะนำสมาชิก
  • GoDaddy Pro - นักออกแบบและนักพัฒนาเว็บไซต์
  • ตัวแทนจำหน่าย
Gd Nav Partners 01 2X ผู้แนะนำสมาชิก Gd Nav Partners 03 2X GoDaddy Pro Img Mega Nav Resellers Program โปรแกรมตัวแทนจำหน่าย
ติดต่อเรา

โทรหาเรา

กรุงเทพมหานคร: 24/7 (ภาษาอังกฤษ)
02-105-6194

ทั่วประเทศ: 24/7(ภาษาอังกฤษ)
060 002 4085

ไดเรกทอรีสากล
หมายเลขโทรศัพท์และเวลาทำการ

ศูนย์ช่วยเหลือ

ดูแหล่งข้อมูลความช่วยเหลือออนไลน์ของเรา

รับความช่วยเหลือ

วิธีใช้

การแจ้งเตือน

  • คุณไม่ได้รับการแจ้งเตือนเข้ามาใหม่
    โดยการแจ้งเตือนจะอยู่ที่นี่เมื่อคุณได้รับมา

ลงชื่อเข้าใช้งาน
ลิงก์ด่วน
  • ลิงก์แผงควบคุม:
  • จัดการโดเมน
  • จัดการตัวสร้างเว็บไซต์
  • จัดการการเชื่อมต่อ
  • จัดการ SSL Certificate
  • จัดการอีเมล
  • ลิงก์กล่องจดหมายขาเข้า:
  • ล็อกอินเข้าสู่อีเมล Office 365
  • ล็อกอินเข้าสู่เว็บเมล GoDaddy
Registered Users

Have an account? Sign in now.

Sign In
New Customer

New to GoDaddy? Create an account to get started today.

Create My Account
{{displayName}}
Customer #:{{shopperid}} | PIN: View
  • GoDaddy Pro
  • ผลิตภัณฑ์ของฉัน
  • การตั้งค่าบัญชี
  • การต่ออายุ และการเรียกเก็บเงิน
Visit My Account Log Out
ชำระเงิน

จัดเตรียมข้อตกลงและนโยบายทางกฎหมายฉบับแปลให้ไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการอ่านและทำความเข้าใจฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น เป้าหมายที่จัดหาคำแปลข้อตกลงและนโยบายทางกฎหมายไม่ใช่เพื่อสร้างข้อตกลงซึ่งมีภาระผูกมัดทางกฎหมาย และไม่ได้นำมาใช้เพื่อให้มีผลบังคับได้ตามกฎหมายสำหรับฉบับภาษาอังกฤษ ในกรณีที่มีข้อผิดพลาดหรือข้อขัดแย้ง ข้อตกลงและนโยบายทางกฎหมายฉบับภาษาอังกฤษไม่ว่าด้วยกรณีใดๆ ที่ควบคุมความสัมพันธ์ของเรา จะอยู่เหนือเงื่อนไขในภาษาอื่นๆ
GoDaddy

บทต่อท้ายสำหรับการดำเนินการกับข้อมูล (ลูกค้า)

ปรับปรุงล่าสุด: 21/10/2020

บทต่อท้ายการประมวลผลข้อมูล (“บทต่อท้าย” นี้) ได้รับการดำเนินการโดยและระหว่าง GoDaddy.com, LLC, a Delaware limited liability company รวมถึงบริษัทในเครือ (“GoDaddy”) กับคุณ (“ลูกค้า”) และที่ได้เพิ่มไว้ รวมถึงข้อมูลเสริมสำหรับเงื่อนไขการให้บริการสากล นโยบายความเป็นส่วนตัวและข้อตกลงใดๆ และทั้งหมดที่กำกับใช้ในการบริการอันครอบคลุม (รวมเรียกว่า “เงื่อนไขการให้บริการ”)  เว้นแต่ได้ระบุไว้ในบทต่อท้ายนี้ คำที่เน้นสำคัญที่ไม่ได้ระบุไว้ในบทต่อท้ายนี้จะมีความหมายให้ไว้ในเงื่อนไขการใช้บริการ

1. คำจำกัดความ

“บริษัท” หมายถึงบุคคลใดๆ ซึ่งได้รับการควบคุม ทำการควบคุม หรืออยู่ในการควบคุมร่วมกันกับ GoDaddy

"CCPA” หมายถึงพระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประมวล กฎหมายแพ่ง แคลิฟอร์เนีย 1798.100 และกฎหมายที่ตามมาหลังจากนั้น รวมถึงบทแก้ไขเพิ่มเติมและข้อบังคับที่นำมาใช้ซึ่งจะมีผลในหรือหลังจากวันที่บังคับใช้ของบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้อมูลฉบับนี้

“การบริการที่ครอบคลุม” บริการที่มีการโฮสต์ไว้ใดๆ ที่เราได้นำเสนอให้กับคุณอาจเกี่ยวข้องกับกระบวนการของข้อมูลส่วนตัวของเรา

“ข้อมูลของลูกค้า” หมายถึงข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลที่ได้รับการดำเนินการโดย GoDaddy ภายในเครือข่ายของ GoDaddy ในนามของลูกค้าที่อ้างอิงถึง หรือที่มีความเชื่อมโยงกับเงื่อนไขการบริการ

“ผู้ควบคุมข้อมูล” หมายถึงลูกค้าในฐานะที่เป็นบุคคลซึ่งกำหนดวัตถุประสงค์และความหมายในการดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัว

“ผู้ให้บริการข้อมูล” หมายถึง GoDaddy ในฐานะบุคคลที่ดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวในนามของผู้ควบคุมข้อมูล หรือผู้ให้บริการตามคำนิยามของ CCPA

“กฎหมายคุ้มครองข้อมูล” หมายถึงกฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยความเป็นส่วนตัวหรือการคุ้มครองข้อมูลทั้งหมดที่บังคับใช้ในการดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวภายใต้ข้อตกลงนี้ รวมถึง CCPA, (ii) GDPR, (iii) คำสั่งว่าด้วยความเป็นส่วนตัวทางอิเล็กทรอนิกส์ของสหภาพยุโรป (คำสั่ง 2002/58/EC), (iv) กฎหมายคุ้มครองข้อมูลในประเทศฉบับใดๆ ที่จัดทำขึ้นภายใต้หรือตาม (ii) หรือ (iii), (v) พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลแห่งสมาพันธรัฐสวิสฉบับวันที่ 19 มิถุนายน 1992 และบทบัญญัติ และ (vi) ในส่วนของสหราชอาณาจักร พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล 2018 และกฎหมายระดับชาติใดๆ ที่มาแทนหรือเปลี่ยนแปลงกฎหมายในประเทศ GDPR หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอันเป็นผลสืบเนื่องจากการที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป ในแต่ละกรณีที่อาจแก้ไขเพิ่มเติม ใช้แทน หรือแทนที่

“เจ้าของข้อมูล” หมายถึงบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัว

“EEA” หมายถึงเขตเศรษฐกิจยุโรป

“GDPR” หมายถึงข้อบังคับ (EU) 2016/679 ของรัฐสภายุโรปและคณะมนตรีในวันที่ 27 เมษายน 2016 เรื่องการปกป้องบุคคลธรรมดาในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวและเรื่องการเคลื่อนไหวโดยเสรีของข้อมูลดังกล่าว รวมถึงยกเลิกคำสั่ง 95/46/EC (ข้อบังคับในการปกป้องข้อมูลทั่วไป)

“เครือข่าย GoDaddy” หมายถึง ศูนย์ข้อมูลของ GoDaddy เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์เครือข่าย และระบบซอฟต์แวร์ที่ใช้โฮสต์ (เช่น ไฟร์วอลล์เสมือนจริง) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ GoDaddy และนำมาใช้เพื่อจัดหาการบริการที่ครอบคลุม

“ข้อมูลส่วนตัว” หมายถึงข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือครัวเรือนที่ระบุตัวตนได้หรือสามารถระบุตัวตนได้ตามคำจำกัดความภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล

“การดำเนินการ” หมายถึงการปฏิบัติการ หรือชุดการปฏิบัติการซึ่งดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัว โดยอาจหมายความรวมถึง การเก็บรวบรวมข้อมูล การบันทึก การจัดการ การจัดโครงสร้าง การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยน หรือการเปลี่ยนแปลง การกู้คืน การให้คำปรึกษา การใช้ การเปิดเผยข้อมูลโดยการส่งผ่าน การแพร่กระจาย หรือการทำให้ข้อมูลพร้อมใช้งาน การจัดเรียง หรือการผสานรวม การจำกัด หรือการทำลาย “การดำเนินการ”, “ดำเนินการ” และ “ดำเนินการแล้ว” จะได้รับการตีความตามดังที่กล่าวมา รายละเอียดการดำเนินการได้ระบุไว้ในภาคผนวก 1

“เหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบ” ไม่ว่าจะเป็น (ก) การไม่ปฏิบัติตามการรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของ GoDaddy อันนำไปสู่อุบัติเหตุ หรือการทำลาย การสูญหาย การแก้ไขข้อมูลอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือโดยมิได้ตั้งใจ การเปิดเผยหรือการเข้าใช้งานข้อมูลลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ (ข) การเข้าใช้งานอุปกรณ์หรือสถานที่ปฏิบัติงานของ GoDaddy โดยไม่ได้รับอนุญาต ด้วยเหตุดังกล่าวนำมาซึ่งผลของการทำลาย การาย การเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลของลูกค้า

“มาตรฐานการรักษาความปลอดภัย” หมายถึงมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยตามที่แนบมากับบทต่อท้ายซึ่งเป็นภาคผนวก 2

“ข้อกำหนดสัญญามาตรฐาน” หรือ “SCCs” หมายถึงภาคผนวก 3 ที่แนบมาและจัดทำขึ้นไว้ในบทต่อท้ายโดยอ้างถึงการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการยุโรป ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2010 ในข้อกำหนดสัญญามาตรฐานสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนตัวไปยังผู้ให้บริการที่ให้บริการอยู่ในประเทศที่สามภายใต้คำสั่งคุ้มครองข้อมูล 

“ผู้ให้บริการช่วง” หมายถึงผู้ให้บริการข้อมูลใดๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการไปจนถึงการดำเนินการกับข้อมูลในฐานะของผู้รวบรวมข้อมูล                                                               

2. การประมวลผลข้อมูล

2.1 ขอบเขตและบทบาท บทต่อท้ายนี้จะมีผลในการใช้งาน เมื่อมีการดำเนินการกับข้อมูลของลูกค้าโดย GoDaddy  สำหรับบริบทนี้ GoDaddy จะทำหน้าที่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลในนามของลูกค้าซึ่งอยู่ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลโดยอ้างตามข้อมูลของลูกค้า

2.2 รายละเอียดในการประมวลผลข้อมูล หัวข้อสำคัญของการดำเนินการกับข้อมูลของลูกค้าโดย GoDaddy คือประสิทธิภาพการทำงานของบริการที่ครอบคลุมโดยอ้างอิงตามเงื่อนไขการให้บริการ และข้อตกลงเฉพาะผลิตภัณฑ์ GoDaddy จะดำเนินการกับข้อมูลของลูกค้าในนามของ และภายใต้คำสั่งที่ออกเป็นเอกสารของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้เท่านั้น: (i) ดำเนินการภายใต้เงื่อนไขการให้บริการ หรือข้อตกลงเฉพาะผลิตภัณฑ์ (ii) การดำเนินการที่เริ่มต้นขึ้นโดยผู้ใช้ขณะใช้บริการที่ครอบคลุมของตน (iii) ดำเนินการให้สอดคล้องกับคำสั่งที่ออกเป็นเอกสารอื่นๆ อันสมควรตามที่ลูกค้าได้ให้ไว้ (เช่น ผ่านทางอีเมล) โดยที่คำแนะนำดังกล่าวจะต้องสอดคล้องกับเงื่อนไขของข้อตกลง GoDaddy จะไม่ (ก) ดำเนินการ เก็บรักษา ใช้ ขาย หรือเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าเว้นแต่ว่าจะมีความจำเป็นในการให้บริการที่ครอบคลุม ตามเงื่อนไขการบริการ หรือตามที่กฎหมายกำหนด (ข) ขายข้อมูลของลูกค้าให้แก่บุคคลที่สามใดๆ (ค) เก็บรักษา ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าดังกล่าวอันไม่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางธุรกิจโดยตรงระหว่าง GoDaddy กับลูกค้า

เพื่อไม่ให้เกิดความคลางแคลงใจ คำแนะนำของลูกค้าสำหรับการดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวจะต้องเป็นไปตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในด้านความถูกต้อง คุณภาพ และความชอบด้วยกฎหมายของข้อมูลส่วนตัวและวิธีการที่ลูกค้าได้มาซึ่งข้อมูลส่วนตัว GoDaddy จะไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามหรือยอมรับคำแนะนำของลูกค้า หากคำแนะนำนั้นละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูล ระยะเวลาในการดำเนินการ วิธีการและจุดประสงค์ของการดำเนินการ ประเภทของข้อมูลส่วนตัวและหมวดหมู่ของเจ้าของข้อมูลที่ดำเนินการภายใต้บทต่อท้ายนี้มีการระบุไว้เพิ่มเติมในภาคผนวก 1 (‘รายละเอียดการดำเนินการ’) ในบทต่อท้ายนี้

3. การปกปิดข้อมูลของลูกค้า

GoDaddy จะไม่เปิดเผยข้อมูลของลูกค้าแก่รัฐบาลหรือบุคคลที่สามใดๆ เว้นแต่ตามจำเป็นเนื่องจากเหตุผลทางกฎหมายหรือตามคำสั่งของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่มีผลและที่มีภาระผูกพัน (เช่น หมายศาลหรือคำสั่งศาล) ในกรณีที่ GoDaddy ได้รับหมายเรียกคดีแพ่งที่ถูกต้องสมบูรณ์เท่าที่อนุญาตให้กระทำได้ GoDaddy จะพยายามแจ้งข้อเรียกร้องตามความเหมาะสมให้ลูกค้าทราบทางอีเมลหรือไปรษณีย์ เพื่อให้ลูกค้าขอคำสั่งศาลให้คุ้มครองหรือหามาตรการเยียวยาใดๆ ที่เหมาะสม

4. ความปลอดภัย

4.1 GoDaddy ปรับใช้และจะคงไว้ซึ่งมาตรการเชิงเทคนิคและเชิงองค์กรสำหรับเครือข่าย GoDaddy ตามที่ได้อธิบายไว้ในส่วนนี้ และที่ได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ในภาคผนวก 2 ในส่วนบทต่อท้ายนี้ว่าด้วยมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง GoDaddy ได้ปรับใช้และคงไว้ซึ่งมาตรการเชิงเทคนิคและเชิงองค์กรที่ระบุถึง (i) การรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย GoDaddy (ii) การรักษาความปลอดภัยเชิงกายภาพแก่สถานประกอบการ (iii) การควบคุมดูแลพนักงานและผู้รับเหมาในการเข้าใช้งาน (i) และ/หรือ (ii) และ (iv) กระบวนการทดสอบ ประเมินค่า และประเมินประสิทธิภาพของมาตรการเชิงเทคนิคและเชิงองค์กรที่ GoDaddy นำมาปรับใช้ ในกรณีที่เราไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในที่นี้ได้ เราจะแจ้งให้คุณทราบเป็นลายลักษณ์อักษร (ผ่านทางเว็บไซต์และอีเมลของเรา) ทันทีที่สามารถทำได้

4.2 GoDaddy มอบคุณสมบัติและการทำงานเพื่อการรักษาความปลอดภัยข้อมูล ซึ่งลูกค้าอาจเลือกที่จะใช้ในการบริการที่ครอบคลุม ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อ (ก) การกำหนดค่าการบริการที่ครอบคลุมอย่างเหมาะสม (ข) ใช้อำนาจการควบคุมดูแลที่มีในการเชื่อมโยงกับการบริการที่ครอบคลุม (รวมถึงการควบคุมดูแลการรักษาความปลอดภัย) เพื่อให้แน่ใจว่าการปกปิดความลับยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนความครบถ้วน ความพร้อมใช้งานและความสามารถในการกลับสู่สภาพเดิมของบริการและระบบการดำเนินการ (ค) ใช้อำนาจควบคุมดูแลที่มีในการเชื่อมโยงกับการบริการที่ครอบคลุม (รวมถึงการควบคุมดูแลการรักษาความปลอดภัย) เพื่ออนุญาตให้ลูกค้าสามารถเรียกคืนข้อมูลที่พร้อมใช้งาน และเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าได้ในเวลาที่เหมาะสมในกรณีที่มีเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคามเชิงกายภาพ หรือเชิงเทคนิค (เช่น การสำรองข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าอย่างถาวรอยู่เป็นประจำ) และ (ง) ดำเนินการตามขั้นตอนที่ลูกค้าพิจารณาแล้วว่าเพียงพอที่จะคงไว้ซึ่งการรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสม การคุ้มครอง และการลบข้อมูลของลูกค้า ซึ่งรวมถึงการใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสลับเพื่อคุ้มครองข้อมูลของลูกค้าจากการเข้าใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต และมาตรการควบคุมสิทธิ์การเข้าใช้งานข้อมูลของลูกค้า

5. สิทธิ์ของเจ้าของข้อมูล

โดยที่ให้ความสำคัญกับลักษณะของการบริการที่ครอบคลุม GoDaddy ช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมข้อมูลบางอย่างได้ตามที่อธิบายไว้ในส่วน “การรักษาความปลอดภัย” ที่อยู่ในบทต่อท้ายซึ่งลูกค้าอาจเลือกที่จะใช้เพื่อเรียกคืน แก้ไข ลบ หรือจำกัดการใช้ และการแชร์ข้อมูลลูกค้าตามที่ได้อธิบายไว้ในการบริการที่ครอบคลุม ลูกค้าอาจใช้การควบคุมเหล่านี้เป็นเทคนิคและการวัดผลเชิงองค์กรเพื่อช่วยในการเชื่อมโยงกับข้อผูกมัดภายใต้กฎหมายความเป็นส่วนตัวที่บังคับใช้ รวมถึงข้อผูกมัดที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองในคำขอของเจ้าของข้อมูล โดยเป็นไปตามเหตุผลทางการค้า และในขอบเขตที่จำเป็นหรือได้รับอนุญาตตามกฎหมาย GoDaddy จะแจ้งเตือนลูกค้าให้ทราบในทันที หาก GoDaddy ได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลโดยตรงให้ดำเนินการตามสิทธิ์ภายใต้กฎหมายข้อมูลส่วนตัวที่มีผลบังคับใช้ใดๆ (“คำร้องขอจากเจ้าของข้อมูล”) นอกจากนี้ การใช้งานบริการที่ครอบคลุมของลูกค้าอาจจำกัดความสามารถในการตอบสนองต่อคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูล GoDaddy อาจให้ความช่วยเหลือเชิงการค้าอย่างสมเหตุสมผล ตามที่ได้รับอนุญาตและเป็นไปอย่างเหมาะสมตามกฎหมาย และให้ความช่วยเหลือเมื่อมีคำร้องขอที่เฉพาะเจาะจงจากลูกค้า ทั้งนี้เพื่อตอบสนองต่อคำร้องขอดังกล่าว โดยลูกค้าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น (หากมี)

6. การให้บริการช่วง

6.1 ผู้ให้บริการช่วงที่ได้รับอนุญาต ลูกค้ายินยอมว่า GoDaddy อาจใช้ผู้ให้บริการช่วงในการดำเนินการตามข้อผูกมัดสัญญาภายใต้เงื่อนไขการให้บริการและบทต่อท้ายนี้ หรือมอบการบริการบางอย่างในนามของตน เช่น การจัดหาการบริการสนับสนุน ในที่นี้ลูกค้าได้ยินยอมที่จะใช้ผู้ให้บริการช่วงของ GoDaddy ตามที่ได้อธิบายไว้ในส่วนนี้ เว้นแต่ได้ระบุไว้ในส่วนนี้ หรือได้รับอนุญาตจากคุณอย่างชัดแจ้ง GoDaddy จะไม่อนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมการให้บริการช่วงอื่นใดๆ

6.2 ข้อผูกมัดของผู้ให้บริการช่วง เมื่อ GoDaddy ใช้ผู้ให้บริการช่วงที่ได้รับอนุญาตใดๆ ตามที่อธิบายไว้ในส่วน 6.1:

(i) GoDaddy จะจำกัดสิทธิ์การเข้าใช้งานของผู้ให้บริการช่วงในการเข้าถึงข้อมูลลูกค้าต่อเมื่อจำเป็นต้องคงไว้ซึ่งการบริการที่ครอบคลุม หรือเพื่อมอบการบริการที่ครอบคลุมแก่ลูกค้าและผู้ใช้ใดๆ โดยเป็นไปตามการบริการที่ครอบคลุม GoDaddy จะห้ามผู้ให้บริการช่วงเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าหากมีการใช้งานด้วยวัตถุประสงค์อื่นใดๆ

(ii) GoDaddy จะดำเนินการตามข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรร่วมกับผู้ให้บริการช่วงและ ตามขอบเขตซึ่งผู้ให้บริการช่วงกำลังดำเนินการในการบริการดำเนินการกับข้อมูลเดียวกัน ซึ่ง GoDaddy เป็นผู้จัดหาให้ภายใต้บทต่อท้ายนี้ GoDaddy จะกำหนดให้ผู้ให้บริการช่วงดำเนินการตามข้อผูกพันสัญญาเดียวกันที่ GoDaddy ได้ดำเนินการภายใต้บทต่อท้ายนี้ และ

(iii) GoDaddy จะคงไว้ซึ่งความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามข้อผูกมัดที่อยู่ในบทต่อท้ายนี้ และสำหรับการปฏิบัติใดๆ หรือการละเว้นต่อผู้ให้บริการช่วงที่อาจเป็นเหตุให้ GoDaddy ต้องฝ่าฝืนข้อผูกมัดของ GoDaddy ภายใต้บทต่อท้ายนี้

6.3 ผู้ให้บริการช่วงรายใหม่  ในบางครั้ง เราอาจทำงานร่วมกับผู้ให้บริการช่วงรายใหม่ภายใต้และเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในบทต่อท้ายนี้  ในกรณีดังกล่าว เราจะแจ้งให้คุณทราบล่วงหน้า 60 วัน (ผ่านทางเว็บไซต์และอีเมลของเรา) ก่อนที่ผู้ให้บริการรายใหม่จะนำข้อมูลลูกค้าใดๆ ไปใช้ หากลูกค้าของคุณไม่อนุมัติให้ใช้ผู้ให้บริการช่วงรายใหม่ ลูกค้าอาจบอกเลิกการบริการที่ครอบคลุมโดยไม่ต้องเสียค่าปรับใดๆ หากได้แจ้ง หรือรับการแจ้งเตือนจากเรา 10 วันล่วงหน้า การแจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรจะมีคำอธิบายถึงเหตุผลการไม่อนุมัติของคุณ หากบริการที่ครอบคลุมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริการ หรือการสั่งซื้อแบบกลุ่มบริการ การบอกเลิกใดๆ จะมีผลบังคับใช้กับกลุ่มดังกล่าวทั้งหมด

7. การแจ้งเตือนการละเมิดการรักษาความปลอดภัย

7.1 เหตุการณ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย หาก GoDaddy รับทราบถึงเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคาม GoDaddy จะเร่งดำเนินการในทันที โดย: (ก) แจ้งเตือนลูกค้าถึงเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคาม และ (ข) ดำเนินการตามขั้นตอนอันควรเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น และเพื่อลดความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคามนี้ให้เหลือน้อยที่สุด

7.2 ความช่วยเหลือ GoDaddy  เพื่อช่วยเหลือลูกค้าเกี่ยวกับการแจ้งเตือนถึงการล่วงละเมิดข้อมูลส่วนตัวที่ลูกค้าจำเป็นต้องแจ้งภายใต้กฎหมายความเป็นส่วนตัวใดๆ ที่บังคับใช้ โดยในการแจ้งเตือนนั้น GoDaddy จะรวมเอา ข้อมูลดังกล่าวที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัย ตามที่ GoDaddy สามารถเปิดเผยแก่ลูกค้าได้ตามเหตุอันควร ทั้งนี้จะต้องให้ความสำคัญกับวิธีการให้บริการที่ครอบคลุม ข้อมูลที่สามารถแจ้งแก่ GoDaddy ได้ และข้อจำกัดในการเปิดเผยข้อมูลใดๆ เช่น การปกปิดเป็นความลับ  

7.3 ความล้มเหลวในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคามการรักษาความปลอดภัย ลูกค้ายอมรับว่า:

(i) ความล้มเหลวในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบจะไม่อยู่ภายใต้บังคับของเงื่อนไขในบทต่อท้ายนี้ ความล้มเหลวในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบเป็นหนึ่งในผลที่ตามมาจากการให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลของลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ เข้าถึงเครือข่ายของ GoDaddy อุปกรณ์ หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของลูกค้า และอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การโจมตีของ Ping และบอร์ดแคสต์อื่นๆ บนไฟร์วอลล์ หรือเซิร์ฟเวอร์เอดจ์ การสแกนพอร์ต ความพยายามในการเข้าสู่ระบบที่ไม่ประสบผล การปฏิเสธของการโจมตีการบริการ โปรแกรมที่เอาไว้ดักจับข้อมูล (หรือการเข้าถึงเส้นทางการรับส่งข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งอาจไม่ส่งผลต่อการเข้าใช้งานที่นอกเหนือจากส่วนหัว) หรือเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคามที่คล้ายกัน และ

(ii) ข้อผูกมัดของ GoDaddy ที่ต้องรายงาน หรือตอบสนองกับเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบภายใต้ส่วนนี้ไม่ใช่ และไม่ได้ตีความว่าเป็นความผิดใดๆ ของ GoDaddy หรือความรับผิดชอบของ GoDaddy อันเนื่องจากเหตุการณ์ที่เป็นภัยคุกคามต่อระบบ

7.4 การติดต่อสื่อสาร การแจ้งเตือนเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบ หากมี จะส่งการแจ้งเตือนไปยังหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งผู้ดูแลระบบของลูกค้าไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ ที่ GoDaddy ได้เลือกไว้ รวมถึงการส่งผ่านทางอีเมล ทั้งนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียวที่จะต้องแน่ใจว่าผู้ดูแลระบบของลูกค้าได้ดูแลรักษาข้อมูลการติดต่อบนแผงควบคุมการจัดการ GoDaddy อยู่เสมอและต้องรักษาความปลอดภัยในขณะส่งผ่านข้อมูลอยู่ตลอดเวลา

8. สิทธิ์ของลูกค้า

8.1 การพิจารณาโดยอิสระ ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจทานข้อมูลที่ GoDaddy ให้บริการอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลการรักษาความปลอดภัย และมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงสร้างการตัดสินใจอย่างอิสระไม่ว่าการบริการที่ครอบคลุมนั้นจะเป็นไปตามความต้องการของลูกค้าหรือไม่ และข้อผูกมัดทางกฎหมายอันรวมถึงข้อผูกมัดของลูกค้าภายใต้บทต่อท้ายนี้ ข้อมูลที่พร้อมใช้งานนี้มีไว้เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถปฏิบัติตามข้อผูกมัดของลูกค้าภายใต้กฎหมายความเป็นส่วนตัวที่บังคับใช้ รวมถึง GDPR โดยให้ความเคารพต่อการคุ้มครองข้อมูลที่มีผลกระทบต่อการประเมินและการให้คำปรึกษาก่อนหน้า

8.2 สิทธิ์ในการตรวจสอบลูกค้า ลูกค้ามีสิทธิ์ในการยืนยันการปฏิบัติตามอย่างสอดคล้องของ GoDaddy ที่อยู่ในบทต่อท้ายนี้ ตามที่ระบุไว้ในการบริการที่ครอบคลุม รวมถึงการปฏิบัติตามอย่างสอดคล้องกับ GoDaddy เป็นพิเศษด้วยมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย โดยจะใช้สิทธิ์อันควรในการดำเนินการตรวจสอบหรือตรวจหาข้อเท็จจริง รวมถึงปฏิบัติตามภายใต้ข้อสัญญามาตรฐาน หากต้องดำเนินการ โดยการส่งคำร้องขอเป็นพิเศษแก่ GoDaddy เป็นลายลักษณ์อักษรตามที่ได้ระบุไว้ในเงื่อนไขการบริการ หาก GoDaddy ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งที่ร้องขอโดยลูกค้าเพื่อให้ทำการตรวจสอบหรือตรวจหาข้อเท็จจริงตามขอบเขตและที่ร้องขอโดยเฉพาะ ลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะยุติการปฏิบัติตามบทต่อท้ายและเงื่อนไขการบริการนี้ หากมีการใช้ข้อสัญญามาตรฐาน ในส่วนของข้อสัญญามาตรฐานดังกล่าวนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข รวมถึงไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิ์ของหน่วยงานควบคุมดูแล หรือเจ้าของข้อมูลใดๆ ภายใต้ข้อสัญญามาตรฐาน โดยส่วนนี้จะมีผลใช้งานตราบเท่าที่ GoDaddy ได้มอบการควบคุมให้กับผู้ให้บริการช่วงในนามของลูกค้าได้โดยลุล่วง

9. การส่งผ่านข้อมูลส่วนตัวระหว่างประเทศ

9.1 การดำเนินการ ภายในประเทศสหรัฐอเมริกา เว้นแต่มีการแจ้งไว้เป็นพิเศษในเงื่อนไขการบริการ ข้อมูลของลูกค้าจะได้รับการถ่ายโอนออกนอก EEA และดำเนินกระบวนการในประเทศสหรัฐอเมริกา

9.2 การใช้ข้อสัญญามาตรฐาน โดยจะนำเอาข้อสัญญามาตรฐานมาใช้กับข้อมูลของลูกค้าเมื่อมีการถ่ายโอนข้อมูลออกนอก EEA ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโอนโดยตรงหรือผ่านการถ่ายโอนต่อไปยังประเทศใดๆ ที่คณะกรรมาธิการยุโรปไม่ยอมรับว่ามีการจัดหาระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวอย่างเพียงพอ ทั้งนี้จะไม่มีการนำเอาข้อสัญญามาตรฐานมาใช้กับข้อมูลของลูกค้าที่ไม่ได้มีการถ่ายโอนข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโอนโดยตรงหรือผ่านการถ่ายโอนต่อไปภายนอก EEA จะไม่นำข้อสัญญามาตรฐานมาใช้เมื่อมีการถ่ายโอนข้อมูลภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติตามอย่างสอดคล้องที่เป็นที่รู้จักสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนตัวออกนอก EEA อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่นในกรณีที่จำเป็นสำหรับการให้การบริการที่ครอบคลุุมตามข้อตกลงการบริการหรือตามที่ท่านเห็นชอบ ทั้งนี้โดยไม่คำนึงถึงข้อความข้างต้น

10. การบอกเลิกบทต่อท้าย

บทต่อท้ายนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปจนกว่าจะมีการบอกเลิกการดำเนินการของเราอันเป็นไปตามเงื่อนไขการให้บริการ (“วันที่บอกเลิก”)  

11. การส่งคืนหรือลบข้อมูลของลูกค้า

ตามที่ได้อธิบายไว้ในการบริการที่ครอบคลุม ลูกค้าอาจได้รับมอบอำนาจในการควบคุม เพื่อใช้อำนาจดังกล่าวในการเรียกใช้ หรือลบข้อมูลลูกค้า การลบข้อมูลใดๆ ของลูกค้าจะได้รับการกำกับดูแลตามเงื่อนไขของบริการที่ครอบคลุมที่เจาะจงเป็นพิเศษ

12. ข้อจำกัดของความรับผิด

ความรับผิดของแต่ละบุคคลภายใต้บทต่อท้ายนี้จะอยู่ภายใต้การยกเว้นและการจำกัดความรับผิดตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการให้บริการ ลูกค้ายอมรับว่าการลงโทษตามข้อบังคับซึ่ง GoDaddy เป็นผู้รับผิดต่อผลที่เกิดขึ้นอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลของลูกค้า หรือมีความเชื่อมโยงกัน การไม่ปฏิบัติตามข้อผูกมัดของลูกค้าภายใต้บทต่อท้ายนี้ และกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่บังคับใช้ใดๆ จะมีผลและลดความรับผิดของ GoDaddy ลงภายใต้เงื่อนไขการให้บริการเสมือนเป็นความรับผิดต่อลูกค้าภายใต้เงื่อนไขการให้บริการ

13. เงื่อนไขการให้บริการทั้งหมด ข้อขัดแย้ง

บทต่อท้ายนี้จะใช้แทนและแทนที่ทุกบทต่อท้ายก่อนหน้านี้ หรือสิ่งแทนความในเวลานั้น ความเข้าใจ ข้อตกลง หรือการสื่อสารระหว่างลูกค้าและ GoDaddy ไม่ว่าจะโดยลายลักษณ์อักษรหรือวาจา โดยอ้างตามเนื้อหาในบทต่อท้ายนี้ รวมถึงภาคผนวกการดำเนินการข้อมูลใดๆ ที่ได้บันทึกไว้ระหว่าง GoDaddy และลูกค้าซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัว และการโยกย้ายข้อมูลดังกล่าวได้อย่างอิสระ  เว้นแต่ได้แก้ไขไว้ในบทต่อท้ายนี้ เงื่อนไขการให้บริการจะยังคงมีผลบังคับใช้และมีผลอย่างสมบูรณ์  หากมีข้อขัดแย้งระหว่างข้อตกลงอื่นใดๆ ระหว่างคณะบุคคลรวมถึงเงื่อนไขการให้บริการและบทต่อท้ายนี้ ให้ถือปฏิบัติตามบทต่อท้ายนี้เป็นหลัก

** ************************************************

ภาคผนวก 1

 รายละเอียดในการดำเนินการ

 1. ลักษณะและจุดประสงค์ของกระบวนการ GoDaddy จะดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวตามความจำเป็นเพื่อมอบการบริการที่ครอบคลุมโดยเป็นไปตามที่ได้อ้างอิงในเงื่อนไขการให้บริการ ข้อตกลงพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ และตามที่ได้มีคำแนะนำเพิ่มเติมจากลูกค้าเมื่อมีการใช้บริการที่ครอบคลุม

 2. ระยะเวลาในการดำเนินการ อ้างอิงตามส่วนที่ 10 ในบทต่อท้ายนี้ GoDaddy จะดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวในระหว่างวันที่มีผลบังคับใช้ของเงื่อนไขการให้บริการ แต่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขในบทต่อท้ายนี้สำหรับระยะเวลาในการดำเนินการ หากมีการเขียนเพิ่มเติมไว้ในเงื่อนไข และเว้นแต่ว่าได้มีการตกลงร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษร

3. หมวดหมู่ของเจ้าของข้อมูล ลูกค้าอาจอัปโหลดข้อมูลส่วนตัวเพื่อใช้ในการบริการที่ครอบคลุม ตามขอบเขตการใช้งานจะได้รับการพิจารณาและควบคุมโดยลูกค้าแต่เพียงผู้เดียว และอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่ของเจ้าของข้อมูล ดังต่อไปนี้:

  • ลูกค้าเป้าหมาย ลูกค้า คู่ค้าธุรกิจ และผู้ขายของลูกค้า (ผู้ที่เป็นบุคคลธรรมดา)
  • พนักงานหรือบุคคลติดต่อของลูกค้าเป้าหมาย ลูกค้า คู่ค้าธุรกิจ และผู้ขาย
  • พนักงาน ตัวแทน ที่ปรึกษา ฟรีแลนซ์ของลูกค้า (ผู้ที่เป็นบุคคลธรรมดา)
  • ผู้ใช้ของลูกค้าซึ่งได้รับอนุญาตโดยลูกค้าให้ใช้บริการที่ครอบคลุม

4. ประเภทของข้อมูลส่วนตัว ลูกค้าอาจอัปโหลดข้อมูลส่วนตัวเพื่อใช้ในการบริการที่ครอบคลุม ประเภทและขอบเขตการใช้งานจะได้รับการพิจารณาและควบคุมโดยลูกค้าแต่เพียงผู้เดียว และอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงหมวดข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล ดังต่อไปนี้: 

  • ชื่อ
  • ที่อยู่
  • หมายเลขโทรศัพท์
  • วันเกิด
  • ที่อยู่อีเมล
  • ข้อมูลอื่นๆ ที่เก็บรวบรวมไว้ที่อาจระบุถึงตัวคุณได้โดยตรงหรือโดยอ้อม

** ************************************************

ภาคผนวก 2

มาตรฐานการรักษาความปลอดภัย

I.  การวัดผลเชิงเทคนิคและเชิงองค์กร  

เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะคุ้มครองข้อมูลของลูกค้าของเรา  พิจารณาตามหลักการปฏิบัติที่ดี ค่าใช้จ่ายในการนำมาปรับใช้งานและวิธี ขอบเขต สภาพแวดล้อม รวมถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินการ รวมทั้งความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นที่แตกต่างกันไปและความร้ายแรงของความเสี่ยงของสิทธิ์และอิสระของบุคคลทั่วไปที่เราได้นำเอาวิธีการเชิงเทคนิคและองค์กรต่อไปนี้มาปฏิบัติใช้  เมื่อมีการพิจารณาถึงการเลือกวิธีการซึ่งปกปิดเป็นความลับ ความสมบูรณ์ของข้อมูล ความพร้อมใช้งานและความยืดหยุ่นของระบบที่นำมาใช้งาน รับประกันการกู้คืนข้อมูลอย่างรวดเร็วภายหลังจากมีเหตุการณ์ที่เป็นภัยคุกคามต่อระบบเชิงกายภาพหรือเทคนิค 

II.  โปรแกรมความเป็นส่วนตัวของข้อมูล  

โปรแกรมความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของเราได้รับการจัดทำขึ้นมาเพื่อคงไว้ซึ่งโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลสากล และรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลตลอดอายุการใช้งาน โปรแกรมนี้ขับเคลื่อนโดยเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล ซึ่งจะคอยตรวจสอบการปฏิบัติใช้นโยบายและวิธีการรักษาความปลอดภัย เราจะทำการตรวจสอบ ประเมินค่า และประเมินประสิทธิภาพของโปรแกรมความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ   

1. การรักษาความลับ “การรักษาความลับ หมายถึง ข้อมูลส่วนตัวจะได้รับการคุ้มครองหากมีการเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต”  

เราใช้ความหลากหลายของการวัดผลเชิงกายภาพและเชิงตรรกะเพื่อคุ้มครองการปกปิดเป็นความลับให้กับข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า การวัดผลเหล่านั้น รวมถึง:   

  การรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ  

  • ระบบการควบคุมการเข้าใช้งานเชิงกายภาพในสถานที่ทำงาน (การควบคุมการเข้าสถานที่ด้วยบัตรพนักงาน การติดตามเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย เป็นต้น) 
  • ระบบการควบคุมดูแล รวมถึงการแจ้งเตือนและการเฝ้าติดตามผ่าน CCTV ตามที่เห็นว่าเหมาะสม  
  • นโยบายจัดเก็บเอกสารและการควบคุมการใช้งาน (การล็อกคอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช้งาน ตู้เก็บเอกสารที่ต้องปิดล็อกไว้ ฯลฯ)  
  •  การจัดการการเข้าใช้งานของผู้เข้าชม 
  • การทำลายข้อมูลบนสื่อและเอกสารที่จับต้องได้ (การตัดเป็นชิ้นเล็กๆ การถอดแม่เหล็ก เป็นต้น) 

  การควบคุมการเข้าใช้งานและการป้องกันการเข้าใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต 

  • การจำกัดสิทธิ์เข้าใช้งานของผู้ใช้ และการให้อนุญาตสิทธิ์เข้าใช้งานตามหน้าที่/ทบทวนสิทธิ์ใช้งานโดยแยกตามหลักการทำหน้าที่  
  • วิธีการยืนยันตัวตนและการให้อนุญาตอย่างเข้มงวด (การยืนยันตัวตนโดยใช้หลายปัจจัย การให้อนุญาตตามใบรับรอง การปิดใช้งาน/การออกจากระบบโดยอัตโนมัติ) 
  • การจัดการรหัสผ่านแบบศูนย์รวม และนโยบายการตั้งค่ารหัสผ่านที่เดาได้ยาก/ซับซ้อน (ความยาวขั้นต่ำ ความซับซ้อนของอักขระ การหมดอายุของรหัสผ่าน เป็นต้น)   
  • ควบคุมสิทธิ์ในการส่งอีเมลและใช้งานอินเทอร์เน็ต 
  • การจัดการการป้องกันไวรัส  
  • การบริหารจัดการระบบการป้องกันการรุก  

การเข้ารหัส   

  • การเข้ารหัสลับการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกผ่านทางโปรโตคอลวิทยาการเข้ารหัสลับ  
  • การเข้ารหัสลับข้อมูลด้วย PII/SPII สำหรับข้อมูลอื่นๆ ที่เหลืออยู่ (ฐานข้อมูล ไดเรกทอรีที่ใช้ร่วมกัน เป็นต้น)   
  • การเข้ารหัสลับให้กับดิสก์อย่างเต็มรูปแบบสำหรับเครื่องพีซีของบริษัทและแล็ปท็อป   
  • การเข้ารหัสลับของสื่อจัดเก็บข้อมูล  
  • การเชื่อมต่อระยะไกลไปยังเครือข่ายของบริษัทจะได้รับการเข้ารหัสลับผ่านทาง VPN  
  • การรักษาความปลอดภัยแก่วัฏจักรของการเข้ารหัสลับข้อมูลสำคัญ  

 การปรับลดขนาดข้อมูล    

  • การปรับลดขนาด PII/SPI ในแอปพลิเคชัน การแก้จุดบกพร่องและบันทึกการรักษาความปลอดภัย  
  • การนำข้อมูลระบุตัวตนออกจากข้อมูลส่วนตัวเพื่อป้องกันไม่ให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้โดยตรง 
  • การแยกข้อมูลที่จัดเก็บตามฟังก์ชัน (ทดสอบจัดเตรียม ใช้งานจริง) 
  • การแยกข้อมูลเชิงตรรกะตามบทบาทโดยอ้างตามสิทธิ์การเข้าใช้งาน 
  • ระบุระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัว   

การทดสอบการรักษาความปลอดภัย     

  • การทดสอบเจาะระบบสารสนเทศสำหรับเครือข่ายบริษัทที่สำคัญ และแพลตฟอร์มสำหรับการโฮสต์ข้อมูลส่วนตัว 
  • การสแกนช่องโหว่และเครือข่ายอย่างสม่ำเสมอ   

2. ความสมบูรณ์ของข้อมูล “ความครบถ้วนอ้างอิงถึงความแน่ใจในความถูกต้อง (ทำงานได้เป็นปกติ) ของข้อมูลและฟังก์ชันการแก้ไขข้อมูลของระบบ เมื่อมีการใช้คำว่า ความครบถ้วน เชื่อมโยงกับคำว่า "ข้อมูล" นั่นแสดงว่าข้อมูลมีความสมบูรณ์และไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง”  

การควบคุมการบริหารการเปลี่ยนแปลงและการบันทึกข้อมูลได้รับการดำเนินการอย่างเหมาะสม นอกเหนือจากการควบคุมการเข้าใช้งานข้อมูลเพื่อคงไว้ซึ่งความถูกต้องของข้อมูลส่วนตัว เช่น:    

การจัดการการเปลี่ยนแปลงและนำข้อมูลออกใช้    

  • กระบวนการเปลี่ยนแปลงและนำข้อมูลออกใช้ รวมถึง (การวิเคราะห์ผลกระทบ การอนุมัติ การทดสอบ การทบทวนการรักษาความปลอดภัย การจัดเตรียมข้อมูล การติดตาม เป็นต้น)  
  • บทบาทและหน้าที่การทำงานอ้างอิงตาม (การแย่งแยกหน้าที่) การเข้าใช้งานสิ่งที่จัดเตรียมไว้สำหรับสภาพแวดล้อมในการทำงานจริง    

การบันทึกและการเฝ้าติดตาม

  • การบันทึกการเข้าใช้งานและการเปลี่ยนแปลงข้อมูล  
  • การตรวจสอบส่วนกลางและบันทึกการรักษาความปลอดภัย   
  • การติดตามความเสร็จสมบูรณ์และความถูกต้องในการถ่ายโอนข้อมูล (ตรวจสอบต้นทางจนถึงปลายทาง)    

3. ความพร้อมใช้งาน “ความพร้อมใช้งานของบริการและระบบ IT แอปพลิเคชัน IT การทำงานของเครือข่าย IT หรือข้อมูลที่ได้รับการรับประกัน หากผู้ใช้สามารถใช้งานสิ่งดังกล่าวได้ตลอดเวลาตามที่ตั้งใจไว้”    

เราประยุกต์ใช้การวัดผลความต่อเนื่องและการรักษาความปลอดภัยเพื่อคงไว้ซึ่งความพร้อมใช้งานของบริการและข้อมูลที่มีอยู่ในบริการเหล่านั้น:    

  • การทดสอบความล้มเหลวอย่างสม่ำเสมอเพื่อนำมาใช้กับการบริการที่สำคัญ  
  • ประสิทธิภาพการทำงานอันครอบคลุม/การติดตามความพร้อมใช้งานและการรายงานสำหรับระบบวิกฤติ  
  • โปรแกรมการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบ  
  • ข้อมูลสำคัญไม่ว่าจะอยู่ในรูปสำเนาข้อมูลหรือการสำรองข้อมูล(การสำรองข้อมูลบนคลาวด์/ฮาร์ดดิสก์/การคัดลอกข้อมูลบนฐานข้อมูล เป็นต้น) 
  • ซอฟต์แวร์ที่วางแผนการใช้งานไว้ โครงสร้างพื้นฐานและคงไว้ซึ่งการรักษาความปลอดภัย (การอัปเดตซอฟต์แวร์ โปรแกรมแก้ไขปัญหาช่องโหว่ของการรักษาความปลอดภัย ฯลฯ)   
  • ระบบสำรองและกู้คืนข้อมูล (เซิร์ฟเวอร์คลัสเตอร์, การทำมิเรอร์ให้กับฐานข้อมูล การตั้งค่าความพร้อมใช้งานสูง ฯลฯ) ที่ติดตั้งไว้ทั้งในและนอกสถานที่ทำงาน และ/หรือสถานที่ตั้งเชิงภูมิศาสตร์ที่แยกจากกัน    
  • ใช้ตัวสำรองไฟที่ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ฮาร์ดแวร์สำรองเพื่อป้องกันการทำงานล้มเหลว และระบบเครือข่าย  
  • การแจ้งเตือน ระบบการรักษาความปลอดภัยในสถานที่  
  • วิธีการคุ้มครองทางกายภาพในสถานที่สำหรับสถานที่ที่มีความสำคัญสูง (อุปกรณ์ป้องกันแรงดันเกิน พื้นยกสูง ระบบทำความเย็น ไฟไหม้ และ/หรือเครื่องตรวจจับควัน ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ฯลฯ) 
  • การป้องกัน DDOS เพื่อคงไว้ซึ่งความพร้อมใช้งาน   
  • การทดสอบความเร็วในการโหลดและภาวะวิกฤติ  

4. คำแนะนำในการดำเนินการกับข้อมูล "คำแนะนำในการดำเนินการกับข้อมูล อ้างอิงถึงการให้ความมั่นใจว่าจะมีเพียงแค่ข้อมูลส่วนตัวเท่านั้นที่จะได้รับการดำเนินการอันสอดคล้องกับคำแนะนำของวิธีวัดผู้รวบรวมข้อมูลและบริษัทที่เกี่ยวข้อง"  

เราได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับการใช้งานภายในองค์กร ข้อตกลงและให้การฝึกอบรมแก่พนักงานในหัวข้อเรื่องความเป็นส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนตัวจะได้รับการดำเนินการภายใต้คำแนะนำและการกำหนดค่าของลูกค้า   

  • นโยบายและเงื่อนไขในการปกปิดความลับที่ระบุไว้ในสัญญาจ้างพนักงาน 
  • การฝึกอบรมเรื่องข้อมูลส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวให้กับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ 
  • บทบัญญัติสัญญาที่เหมาะสมกับข้อตกลงที่มีผู้ให้บริการช่วงเพื่อคงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการควบคุมดูแล
  • การตรวจสอบความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ให้บริการภายนอกอย่างสม่ำเสมอ 
  • การมอบอำนาจให้กับลูกค้าในการควบคุมดูแลการกำหนดค่าในการดำเนินการกับข้อมูลของตนโดยสมบูรณ์
  • การตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ 

**********************************************

ภาคผนวก 3

ดูส่วนที่ 9.2 ของบทต่อท้ายสำหรับ การใช้ประโยชน์จาก SCC เหล่านี้

ข้อสัญญามาตรฐาน (ผู้ให้บริการ)

สำหรับวัตถุประสงค์ของมาตรา 26(2) แห่งคำสั่งคุ้มครองข้อมูล 95/46/EC สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนตัวไปยังผู้ให้บริการที่ดำเนินการในประเทศที่สาม ซึ่งขาดความมั่นใจว่าจะมีการคุ้มครองข้อมูลในระดับที่เพียงพอ

บุคคลที่ได้รับการระบุไว้ในบทต่อท้ายว่าเป็น “ลูกค้า”
(“ผู้ส่งออกข้อมูล”)

และ

GoDaddy.com, LLC

 (“ผู้นำเข้า ข้อมูล”)

หากคนเดียว เรียกว่า “บุคคล” หากมีการรวมกลุ่มกันจะเรียกว่า “คณะบุคคล”

เห็นชอบกับข้อกำหนดสัญญาต่อไปนี้ (ข้อกำหนด) เพื่ออ้างถึงการป้องกันที่เพียงพอต่อการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของบุคคลในการถ่ายโอนข้อมูลโดยผู้ส่งออกข้อมูลไปยังผู้นำเข้าข้อมูลสำหรับข้อมูลส่วนตัวตามที่ได้ระบุไว้ในภาคผนวก 1

ข้อกำหนด 1

คำจำกัดความ

สำหรับวัตถุประสงค์ของข้อกำหนด:

(ก) ‘ข้อมูลส่วนตัว', 'หมวดข้อมูลพิเศษ', 'ดำเนินการ/กำลังดำเนินการ', 'ผู้ควบคุม', 'ผู้ให้บริการ', 'เจ้าของข้อมูล' และ 'หน่วยงานควบคุมดูแล' จะต้องมีความหมายเดียวกับที่ปรากฏอยู่ในคำสั่งคุ้มครองข้อมูล 95/46/EC ของสหภาพยุโรปและสภาตามประกาศใช้ ณ วันที่ 24 ตุลาคม 1995 ในเรื่องการคุ้มครองบุคคลอันเกี่ยวข้องกับการดำเนินการต่อข้อมูลส่วนตัว และการโยกย้ายข้อมูลดังกล่าวอย่างอิสระ

(ข) 'ผู้ส่งออกข้อมูล' หมายถึงผู้ควบคุมที่ถ่ายโอนข้อมูลส่วนตัว

(ค) 'ผู้นำเข้าข้อมูล' หมายถึงผู้ให้บริการที่ยอมรับว่าจะรับข้อมูลจากผู้ส่งออกข้อมูลโดยส่งออกข้อมูลส่วนตัวเพื่อการดำเนินการในนามของตนภายหลังจากที่ได้ถ่ายโอนข้อมูลตามคำสั่งและเงื่อนไขในข้อกำหนด และผู้ที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้ระบบของบุคคลที่สามซึ่งแน่ใจแล้วว่ามีการปกป้องข้อมูลอย่างเพียงพอภายใต้คำนิยามของมาตรา 25(1) แห่งคำสั่งคุ้มครองข้อมูล 95/46/EC

(ง) 'ผู้ให้บริการช่วง' หมายถึงผู้ให้บริการใดๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้นำเข้าข้อมูล หรือโดยผู้ให้บริการช่วงอื่นใดๆ ของผู้นำเข้าข้อมูลผู้ที่ยินยอมในการรับข้อมูลจากผู้นำเข้าข้อมูล หรือจากผู้ให้บริการช่วงอื่นใดๆ ของผู้นำเข้าข้อมูลซึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัวแต่เพียงผู้เดียว โดยมีจุดประสงค์เพื่อการดำเนินการกับกิจกรรมที่จะดำเนินการภายในนามของผู้ส่งออกข้อมูล ภายหลังจากมีการโอนย้ายข้อมูลอันสอดคล้องกับคำสั่งของผู้ส่งออก ข้อตกลงของข้อกำหนดและข้อตกลงของสัญญาย่อยที่ได้เขียนขึ้นมา

(จ) 'กฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้' หมายถึงการคุ้มครองสิทธิ์พื้นฐานตามอำนาจทางกฎหมายและเสรีภาพของบุคคล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิ์ของตนต่อความเป็นส่วนตัว อันเนื่องจากการดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวที่มีต่อผู้ควบคุมข้อมูลในรัฐสมาชิกซึ่งผู้ส่งออกข้อมูลได้จัดทำขึ้น

(ฉ) 'การวัดผลการรักษาความปลอดภัยเชิงเทคนิคและเชิงองค์กร' หมายถึงการวัดผลที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวจากอุบัติเหตุ หรือการทำลายข้อมูลอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือการสูญหายโดยไม่เจตนา การเปลี่ยนแปลง การเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการเข้าใช้งานข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการดำเนินการเกี่ยวข้องกับการส่งผ่านข้อมูลผ่านเครือข่าย และมีลักษณะการดำเนินการที่ไม่เป็นปฏิบัติตามกฎหมายอื่นๆ ทั้งหมด

ข้อกำหนด 2

รายละเอียดในการถ่ายโอนข้อมูล

รายละเอียดของการถ่ายโอนข้อมูล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหมวดหมู่พิเศษของข้อมูลส่วนตัวที่ระบุไว้เฉพาะในภาคผนวก 1 ซึ่งรวบรวมไว้ในข้อกำหนดนี้

ข้อกำหนด 3

ข้อกำหนดสำหรับผู้ได้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สาม

1.  เจ้าของข้อมูลสามารถบังคับใช้ข้อกำหนดนี้กับผู้ส่งออกข้อมูล ข้อกำหนด 4(ข) ถึง (ฌ), ข้อกำหนด 5(ก) ถึง (จ) และ (ช) ถึง (ญ), ข้อกำหนด 6(1) และ (2), ข้อกำหนด 7, ข้อกำหนด 8(2) และข้อกำหนด 9 ถึง 12 ในฐานะผู้ได้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สาม

2.  เจ้าของข้อมูลสามารถบังคับใช้ข้อกำหนดนี้กับผู้นำเข้าข้อมูล โดยอาศัยข้อกำหนด 5(ก) จนถึง (ฉ) และ (ช), ข้อกำหนด 6, ข้อกำหนด 7, ข้อกำหนด 8(2) และข้อกำหนด 9 จนถึง 12 ในกรณีที่ผู้ส่งออกข้อมูลปิดบังข้อเท็จจริง หรือไม่ได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ เว้นแต่บุคคลผู้ให้บริการใดๆ ได้ยอมรับต่อข้อผูกมัดตามกฎหมายทั้งหมดที่มีของผู้ส่งออกข้อมูลตามสัญญาหรือตามการดำเนินการทางกฎหมาย อันเป็นผลจากการอ้างสิทธิ์และข้อผูกมัดของผู้ส่งออกข้อมูล ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ เจ้าของข้อมูลสามารถบังคับใช้สิทธิ์ของตนต่อบุคคลดังกล่าวได้

3.  เจ้าของข้อมูลสามารถบังคับใช้ข้อกำหนดนี้กับผู้ให้บริการช่วง โดยอาศัยข้อกำหนด 5(ก) จนถึง (ฉ) และ (ช), ข้อกำหนด 6, ข้อกำหนด 7, ข้อกำหนด 8(2) และข้อกำหนด 9 จนถึง 12 ในกรณีที่ทั้งผู้ส่งออกและนำเข้าข้อมูลปิดบังข้อเท็จจริง หรือไม่ได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ หรือได้กลายเป็นบุคคลล้มละลาย เว้นแต่บุคคลผู้ให้บริการใดๆ ได้ยอมรับต่อข้อผูกมัดตามกฎหมายทั้งหมดที่มีของผู้ส่งออกข้อมูลตามสัญญาหรือตามการดำเนินการทางกฎหมาย อันเป็นผลจากการอ้างสิทธิ์และข้อผูกมัดของผู้ส่งออกข้อมูล ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ เจ้าของข้อมูลสามารถบังคับใช้สิทธิ์ของตนต่อบุคคลดังกล่าวได้ ความรับผิดของบุคคลที่สามดังกล่าวต่อผู้ให้บริการช่วงจะถูกจำกัดไว้ตามการปฏิบัติการของกระบวนการของตนภายใต้ข้อกำหนด

4.  คณะบุคคลที่เป็นตัวแทนองค์กร หรือบุคคลใดๆ ไม่ทักท้วงต่อเจ้าของข้อมูล หากเจ้าของข้อมูลมีประสงค์อันชัดแจ้ง และหากได้รับอนุญาตตามกฎหมายในประเทศ

ข้อกำหนด 4

ข้อผูกมัดของผู้ส่งออกข้อมูล

ผู้ส่งออกข้อมูลยอมรับและรับประกันว่า:

(ก) กระบวนการดังกล่าวรวมถึงการถ่ายโอนข้อมูลส่วนตัวด้วยตนเอง และจะยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องภายใต้บทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลที่มีผลบังคับใช้ (และ หากมีผลบังคับใช้ จะมีการแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ของรัฐสมาชิกที่เกี่ยวข้องเมื่อมีการจัดตั้งผู้ส่งออกข้อมูลแล้ว) และต้องไม่มีการล่วงละเมิดบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องในรัฐนั้นๆ

(ข) คำแนะนำและช่วงระยะเวลาในการรับบริการการดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวจะเป็นเครื่องมือแนะนำให้กับผู้นำเข้าข้อมูลในการดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวที่มีการถ่ายโอนเฉพาะในนามของผู้ส่งออกข้อมูลเท่านั้นและเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลและข้อกำหนดที่บังคับใช้

(ค) ผู้นำเข้าข้อมูลจะต้องให้การรับประกันอย่างพอเพียงจากการวัดผลการรักษาความปลอดภัยเชิงเทคนิคและเชิงองค์กรตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก 2 ในสัญญานี้

(ง) ภายหลังจากการประเมินข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้ การวัดผลการรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งเหมาะสมในการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวจากอุบัติเหตุ หรือการทำลายข้อมูลอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการเข้าถึงข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการดำเนินการเกี่ยวข้องกับการส่งผ่านข้อมูลผ่านเครือข่าย และมีลักษณะการดำเนินการที่ไม่เป็นปฏิบัติตามกฎหมายอื่นๆ ทั้งหมด การวัดผลเหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการรักษาความปลอดภัยในระดับที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ปรากฏให้เห็นเมื่อมีการดำเนินการกับข้อมูล และวิธีที่ข้อมูลได้รับการคุ้มครอง โดยพิจารณาตามความทันสมัยและค่าใช้จ่ายในการนำมาปฏิบัติใช้

(จ) เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามการวัดผลการรักษาความปลอดภัย

(ฉ) หากการถ่ายโอนข้อมูลเกี่ยวข้องกับหมวดหมู่ข้อมูลพิเศษ จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบถึงข้อมูลดังกล่าว หรือจะต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หรือในทันทีเท่าที่ทำได้หลังจากดำเนินการแล้ว อาจสามารถถ่ายโอนข้อมูลไปยังประเทศที่สามที่ไม่ได้มีการคุ้มครองข้อมูลอย่างเพียงพอได้ซึ่งอยู่ภายใต้คำนิยามของคำสั่งคุ้มครองข้อมูล 95/46/EC

(ช) ส่งต่อการแจ้งเตือนที่ได้รับจากผู้นำเข้าข้อมูล หรือผู้ให้บริการช่วงโดยอ้างตามข้อกำหนด 5(ข) และข้อกำหนด 8(3) ไปยังหน่วยงานควบคุมดูแลคุ้มครองข้อมูล หากผู้ส่งออกข้อมูลตัดสินใจที่จะถ่ายโอนข้อมูลต่อไป หรือยกเลิกการระงับใช้ชั่วคราว

(ซ) เพื่อมอบความพร้อมใช้งานให้แก่เจ้าของข้อมูลในขณะที่ทำการร้องขอสำเนาข้อกำหนด พร้อมด้วยข้อยกเว้นในภาคผนวก 2 และคำจำกัดความโดยสรุปของการวัดผลการรักษาความปลอดภัย รวมถึงสำเนาของสัญญาสำหรับการให้บริการช่วงซึ่งจะต้องดำเนินการตามภายใต้ข้อกำหนด เว้นแต่ข้อกำหนดหรือสัญญามีข้อมูลทางการค้า ในกรณีดังกล่าวอาจจำเป็นต้องลบข้อมูลทางการค้าออก

(ฌ) สำหรับในกรณีที่ผู้ให้บริการช่วง การดำเนินการกับกิจกรรมได้ดำเนินไปภายใต้ข้อกำหนด 11 ซึ่งผู้ให้บริการช่วงได้จัดเตรียมไว้ให้อย่างน้อยในระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวเดียวกันและสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลในฐานะของผู้นำเข้าข้อมูลภายใต้ข้อกำหนด และ

(ญ) เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามข้อกำหนด 4(ก) ถึง (ฌ)

ข้อกำหนด 51

ข้อผูกมัดของผู้นำเข้าข้อมูล

ผู้นำเข้าข้อมูลยอมรับและรับประกันว่า:

(ก) เพื่อดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวในนามของผู้ส่งออกข้อมูลเท่านั้น และเพื่อปฏิบัติตามอย่างสอดคล้องกับคำสั่งและข้อกำหนด หากไม่อาจปฏิบัติตามได้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ โดยสืบเนื่องจากเป็นการตกลงยอมรับร่วมกันที่จะต้องบอกกล่าวแก่ผู้ส่งออกข้อมูลในทันทีหากไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ในกรณีดังกล่าวนี้ผู้ส่งออกข้อมูลสามารถระงับการถ่ายโอนข้อมูล และ/หรือยุติสัญญาได้

(ข) ไม่มีเหตุผลที่เชื่อได้ว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่มีผลบังคับใช้เพื่อการคุ้มครองข้อมูลโดยอาศัยคำสั่งที่ได้รับมาจากผู้ส่งออกข้อมูล และข้อผูกมัดภายใต้สัญญาและอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลอันไม่พึงประสงค์อันร้ายแรงต่อการรับประกัน และข้อผูกมัดที่ระบุไว้ในข้อกำหนด โดยจะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ส่งออกทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโดยทันที ในกรณีดังกล่าวผู้ส่งออกข้อมูลมีสิทธิ์ที่จะระงับการถ่ายโอนข้อมูล และ/หรือบอกเลิกสัญญาดังกล่าว

(ค) ปรับใช้การวัดผลการรักษาความปลอดภัยเชิงเทคนิคและเชิงองค์กรตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก 2 ก่อนดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวที่มีการโอนย้ายมา

(ง) โดยจะมีการแจ้งให้ผู้ส่งออกข้อมูลทราบโดยทันทีเกี่ยวกับ:

(i) คำร้องขอที่มีภาระผูกพันทางกฎหมายใดๆ สำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เว้นแต่ห้ามมิให้ดำเนินการดังกล่าว เช่น การห้ามมิให้ดำเนินการภายใต้กฎหมายอาญาเพื่อสงวนไว้ซึ่งการปกปิดเป็นความลับเพื่อการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงตามการบังคับใช้กฎหมาย

(ii) การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่เจตนาหรือไม่ได้รับอนุญาต และ

(iii) คำร้องขอใดๆ ที่ได้รับโดยตรงจากเจ้าของข้อมูลโดยที่ไม่มีการตอบสนองต่อคำร้องขอนั้น เว้นแต่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการดังกล่าว

(จ) จัดการกับทุกข้อซักถามจากผู้ส่งออกข้อมูลอันเกี่ยวข้องกับการดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัวเพื่อถ่ายโอนหรือปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานควบคุมดูแลซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินการกับข้อมูลที่มีการถ่ายโอนโดยทันทีและอย่างเหมาะสม

(ฉ) ตามที่ร้องขอให้ผู้ส่งออกข้อมูลส่งการดำเนินการกับข้อมูลเพื่อการตรวจสอบกิจกรรมการดำเนินการตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนด ซึ่งจะได้รับการดำเนินการโดยผู้ส่งออกข้อมูล หรือดำเนินการตรวจหาข้อเท็จจริงจากสมาชิกอิสระ และภายใต้คุณสมบัติของความเป็นมืออาชีพที่จำเป็นอันผูกพันกับหน้าที่ในการปกปิดความลับ ที่ผู้ส่งออกข้อมูลได้เลือกไว้ตามจำเป็น ในข้อตกลงที่ทำขึ้นกับหน่วยงานควบคุมดูแล

(ช) เพื่อมอบความพร้อมใช้งานให้แก่เจ้าของข้อมูลในขณะที่ทำการร้องขอสำเนาข้อกำหนด หรือสัญญาที่มีอยู่ใดๆ สำหรับการให้บริการช่วง เว้นแต่ข้อกำหนดหรือสัญญามีข้อมูลทางการค้า ในกรณีดังกล่าวอาจจำเป็นต้องลบข้อมูลทางการค้าออก ข้อยกเว้นในภาคผนวก 2 ซึ่งจะถูกแทนที่โดยคำจัดความโดสรุปของการวัดผลการรักษาความปลอดภัยในกรณีดังกล่าวเหล่านั้น ซึ่งเจ้าของข้อมูลจะไม่สามารถรับสำเนาข้อมูลจากผู้ส่งออกข้อมูลได้

(ซ) การให้บริการช่วง ผู้ส่งออกข้อมูลจะต้องได้รับการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและต้องมีการให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน

(ฌ) การดำเนินการโดยผู้ให้บริการช่วงจะเป็นไปตามข้อกำหนด 11

(ญ) ส่งสำเนาของข้อตกลงที่ทำกับผู้ให้บริการช่วงซึ่งได้รวมอยู่ในข้อกำหนดให้กับผู้ส่งออกข้อมูลในทันที

ข้อกำหนด 6

ความรับผิด

1.  คณะบุคคลยอมรับว่าเจ้าของข้อมูลซึ่งได้รับผลกระทบจากความเสียหายอันเนื่องมาจากการไม่ปฏิบัติตามข้อผูกมัดที่อ้างอิงอยู่ในข้อกำหนด 3 หรือข้อกำหนด 11 โดยบุคคลใดๆ หรือผู้ให้บริการช่วงที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับการชดเชยจากผู้ส่งออกข้อมูลสำหรับความเสียหายที่ได้รับ

2.  หากเจ้าของข้อมูลไม่สามารถร้องเรียนเพื่อขอการชดเชยจากผู้ส่งออกข้อมูลตามย่อหน้า 1 อันเป็นผลมาจากการฝ่าฝืนของผู้นำเข้าข้อมูลหรือผู้ให้บริการช่วงของตนสำหรับข้อผูกมัดที่ตนเองมีหากอ้างอิงตามข้อกำหนด 3 หรือในข้อกำหนด 11 เนื่องจากผู้ส่งออกข้อมูลปิดบังข้อเท็จจริง หรือไม่ได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ หรือได้กลายเป็นบุคคลล้มละลาย ผู้นำเข้าข้อมูลเห็นชอบว่าเจ้าของข้อมูลอาจทำเรื่องร้องเรียนไปยังผู้นำเข้าข้อมูลเสมือนว่าเป็นผู้ส่งออกข้อมูล เว้นแต่บุคคลที่ให้บริการใดๆ ได้ยอมรับต่อข้อผูกมัดตามกฎหมายทั้งหมดของผู้ส่งออกข้อมูลตามสัญญาหรือตามการดำเนินการทางกฎหมาย ด้วยเหตุดังกล่าวนี้เจ้าของข้อมูลสามารถบังคบใช้สิทธิ์ของตนต่อบุคคลดังกล่าวได้ ผู้นำเข้าข้อมูลอาจไม่สามารถวางใจต่อผู้ให้บริการที่ทำการฝ่าฝืนข้อผูกพันเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดของตน

3.  หากเจ้าของข้อมูลไม่สามารถร้องเรียนต่อผู้ส่งออกข้อมูลหรือผู้นำเข้าข้อมูลตามที่อ้างอิงในย่อหน้าที่ 1 และ 2 ได้ อันเป็นผลมาจากการผิดสัญญาของผู้ให้บริการช่วงต่อข้อผูกมัดที่ตนมีตามอ้างอิงในข้อกำหนด 3 หรือในข้อกำหนด 11 อันเนื่องจากทั้งผู้ส่งออกและนำเข้าข้อมูลปิดบังข้อเท็จจริง หรือไม่ได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ หรือได้กลายเป็นบุคคลล้มละลาย ผู้ให้บริการช่วงยอมรับว่าเจ้าของข้อมูลอาจทำการร้องเรียนต่อผู้ให้บริการช่วงที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการของกระบวนการของตนที่มีภายใต้ข้อกำหนดเสมือนเป็นผู้ส่งออกหรือนำเข้าข้อมูล เว้นแต่บุคคลผู้ให้บริการใดๆ ได้ยอมรับต่อข้อผูกมัดตามกฎหมายทั้งหมดที่มีของผู้ส่งออกและนำเข้าข้อมูลตามสัญญาหรือตามการดำเนินการทางกฎหมาย ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ เจ้าของข้อมูลสามารถบังคับใช้สิทธิ์ของตนต่อบุคคลดังกล่าวได้ ความรับผิดของผู้ให้บริการช่วงจะมีการจำกัดไว้ตามการปฏิบัติการของกระบวนการของตนภายใต้ข้อกำหนด

ข้อกำหนด 7

การไกล่เกลี่ยและเขตอำนาจตามกฎหมาย

1.  ผู้นำเข้าข้อมูลยินยอมว่า หากเจ้าของข้อมูลอ้างสิทธิ์จากการเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สาม/หรือเรียกร้องค่าชดเชยสำหรับความเสียหายภายใต้ข้อกำหนด ผู้นำเข้าข้อมูลจะยอมรับการตัดสินใจของเจ้าของข้อมูล:

(ก) อ้างอิงตามข้อพิพาทเพื่อการไกล่เกลี่ย โดยบุคคลอิสระ หรือหากมีผลบังคับใช้ โดยหน่วยงานควบคุมดูแล

(ข) อ้างอิงตามข้อพิพาทต่อศาลในรัฐสมาชิกซึ่งผู้ส่งออกข้อมูลได้กำหนดไว้

2.  คณะบุคคลเห็นด้วยว่าตัวเลือกที่เจ้าของข้อมูลให้ไว้จะมีความเป็นกลางต่อสิทธิพื้นฐานหรือสิทธิตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อใช้อ้างอิงสำหรับการเยียวยาอันเป็นไปตามบทบัญญัติอื่นๆ ของกฎหมายในประเทศหรือระหว่างประเทศ

ข้อกำหนด 8

การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานควบคุมดูแล

1.  ผู้ส่งออกข้อมูลเห็นด้วยที่จะส่งสำเนาของสัญญานี้ให้กับหน่วยงานควบคุมดูแล หากมีการร้องขอ หรือหากจำเป็นต้องส่งสำเนาให้โดยเป็นไปตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้

2.  คณะบุคคลเห็นชอบว่าหน่วยงานควบคุมดูแลมีสิทธิ์ในการดำเนินการตรวจสอบผู้นำเข้าข้อมูล และผู้ให้บริการช่วงใดๆ โดยอาศัยขอบเขตเดียวกับและอยู่ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันตามที่ได้มีการนำมาใช้เพื่อการตรวจสอบผู้ส่งออกข้อมูลภายใต้กฎหมายการคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้

3.  ผู้นำเข้าข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ส่งออกข้อมูลทราบเกี่ยวกับบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่มีผลบังคับใช้โดยทันที หรือผู้ให้บริการช่วงใดๆ ที่ป้องกันการดำเนินการตรวจสอบผู้นำเข้าข้อมูล หรือผู้ให้บริการช่วงใดๆ ตามที่อ้างถึงในย่อหน้า 2 ในกรณีดังกล่าว ผู้ส่งออกข้อมูลจะต้องได้รับสิทธิ์ให้สามารถวัดผลได้ตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนด 5 (ข)

ข้อกำหนด 9

กฎหมายที่ใช้บังคับแก่สัญญา

ข้อกำหนดจะได้รับการควบคุมโดยกฎหมายของรัฐสมาชิกซึ่งได้มีการก่อตั้งผู้ส่งออกข้อมูลขึ้นมา และหากมีข้อสงสัย หรือต้องการทราบตำแหน่งที่ตั้งของหลายผู้ส่งออกข้อมูล ทั้งนี้จะมีการกำกับดูแลโดยกฎหมายแห่งประเทศอังกฤษและเวลส์ 

ข้อกำหนด 10

การเปลี่ยนแปลงในสัญญา

คณะบุคคลที่รับผิดชอบในงานดังกล่าวจะต้องไม่เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อกำหนด โดยไม่ได้เป็นการขัดขวางคณะบุคคลไม่ให้เพิ่มเติมข้อกำหนดลงในปัญหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ซึ่งมีความจำเป็นต้องอ้างอึงถึงตราบเท่าที่คณะบุคคลดังกล่าวไม่ได้โต้แย้งกับข้อกำหนด

ข้อกำหนด 11

การให้บริการช่วง

1.  ผู้ส่งออกข้อมูลจะต้องไม่ทำสัญญาย่อยในการปฏิบัติการของกระบวนการของตนใดๆ ที่กระทำขึ้นในนามของผู้ส่งออกข้อมูลภายใต้ข้อกำหนดโดยที่ไม่ได้รับการยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ส่งออกข้อมูล เมื่อผู้นำเข้าข้อมูลทำสัญญาย่อยกับข้อผูกมัดภายใต้ข้อกำหนด ด้วยความยินยอมของผู้ส่งออกข้อมูล การดำเนินการดังกล่าวควรกระทำภายใต้ข้อตกลงที่มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้ให้บริการช่วงเท่านั้น ซึ่งได้กำหนดให้มีข้อผูกมัดเดียวกันกับผู้ให้บริการช่วงเนื่องจากมีการกำหนดไว้กับผู้นำเข้าข้อมูลภายใต้ข้อกำหนด หากผู้ให้บริการช่วงไม่อาจดำเนินการตามข้อผูกพันการคุ้มครองข้อมูลภายใต้ข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษร ผู้นำเข้าข้อมูลจะต้องคงไว้ซึ่งความรับผิดโดยสมบูรณ์แก่ผู้ส่งออกข้อมูลสำหรับการดำเนินการต่อข้อผูกพันของผู้ให้บริการช่วงภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว

2.  สัญญาที่เขียนขึ้นไว้ก่อนหน้าระหว่างผู้นำเข้าข้อมูลและผู้ให้บริการช่วง จะต้องแจ้งข้อกำหนดสำหรับผู้ได้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สามตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนด 3 หากเกิดกรณีที่เจ้าของข้อมูลไม่อาจทำการร้องเรียนเพื่อขอค่าชดเชยตามอ้างถึงในย่อหน้า 1 ของข้อกำหนด 6 ต่อผู้ส่งออกข้อมูล หรือผู้นำเข้าข้อมูลได้เนื่องจากทั้งสอง ปิดบังข้อเท็จจริง หรือไม่ได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ หรือได้กลายเป็นบุคคลล้มละลาย และผู้รับประโยชน์ต่อไม่ได้อ้างสิทธิ์ตามข้อผูกพันทางกฎหมายทั้งหมดกับผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าข้อมูลตามสัญญาหรือการดำเนินการตามกฎหมาย ความรับผิดของบุคคลที่สามดังกล่าวต่อผู้ให้บริการช่วงจะถูกจำกัดไว้ตามการปฏิบัติการของกระบวนการของตนภายใต้ข้อกำหนด

3.  บทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลในแง่ของการให้บริการช่วงของสัญญาตามอ้างอิงในย่อหน้า 1 จะได้รับการกำกับดูแลโดยกฎหมายของรัฐสมาชิกซึ่งผู้ส่งออกข้อมูลได้กำหนดขึ้น

4.  ผู้ส่งออกข้อมูลจะเก็บรายการข้อตกลงของผู้ให้บริการช่วงโดยสรุปภายใต้ข้อกำหนด และผู้นำเข้าข้อมูลจะแจ้งเตือนให้ทราบโดยอ้างตามข้อกำหนด 5 (ญ) ซึ่งจะมีการอัปเดตข้อมูลดังกล่าวอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง รายชื่อจะต้องมีพร้อมมอบให้กับหน่วยงานควบคุมดูแลคุ้มครองข้อมูลของผู้ส่งออกข้อมูล

ข้อกำหนด 12

ข้อผูกมัดภายหลังจากการบอกเลิกการบริการดำเนินการกับข้อมูลส่วนตัว

1.  คณะบุคคลเห็นชอบว่าการบอกเลิกบทบัญญัติของการบริการดำเนินการกับข้อมูล ผู้นำเข้าข้อมูลและผู้ให้บริการช่วงจะ ตามตัวเลือกของผู้ส่งออกข้อมูล ต้องส่งคืนข้อมูลส่วนตัวที่มีการถ่ายโอนและสำเนาทั้งหมดให้กับผู้ส่งออกข้อมูล หรือจะต้องทำลายข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดและต้องผ่านการตรวจสอบโดยผู้ส่งออกข้อมูลว่าได้มีการดำเนินการดังกล่าวแล้ว เว้นแต่ได้มีการบังคับตามกฎหมายให้ผู้นำเข้าข้อมูลต้องคุ้มครองข้อมูลที่ได้จากการส่งคืน หรือทำลายข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนของข้อมูลส่วนตัวที่มีการถ่ายโอน ในกรณีดังกล่าว ผู้นำเข้าข้อมูลรับประกันว่าจะมีการปกปิดความลับของข้อมูลส่วนตัวที่ได้ถ่ายโอน และจะไม่ดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนตัวที่ได้ถ่ายโอนอีกต่อไป

2.  ผู้นำเข้าข้อมูลหรือผู้ให้บริการช่วงให้การรับประกันขณะที่มีการร้องขอผู้ส่งออกข้อมูล และ/หรือหน่วยงานควบคุมดูแล โดยที่จะมีการส่งข้อมูลไปยังสถานประกอบการเพื่อดำเนินการกับข้อมูลสำหรับการตรวจสอบการวัดผลที่อ้างอิงไว้ตามย่อหน้า 1

**********************************************

ภาคผนวก 1 สำหรับข้อสัญญามาตรฐาน

ผู้ส่งออกข้อมูล

ผู้ส่งออกข้อมูลคือบุคคลที่ได้รับการระบุไว้ในบทต่อท้ายว่าเป็น “ลูกค้า”

ผู้นำเข้าข้อมูล

ผู้นำเข้าข้อมูลคือ GoDaddy.com, LLC ผู้ให้บริการของบริการที่โฮสต์ไว้

เจ้าของข้อมูล

การปฏิบัติการของกระบวนการได้รับการระบุไว้ในส่วน 1.3 และภาคผนวก 1 ในบทต่อท้าย

หมวดข้อมูล

การปฏิบัติการของกระบวนการได้รับการระบุไว้ในส่วน 1.3 และภาคผนวก 1 ในบทต่อท้าย

ระบบปฏิบัติการ

การปฏิบัติการของกระบวนการได้รับการระบุไว้ในส่วน 1.3 และภาคผนวก 1 ในบทต่อท้าย

ภาคผนวก 2 สำหรับข้อสัญญามาตรฐาน

ภาคผนวกนี้เป็นส่วนหนึ่งในข้อกำหนด  การสั่งซื้อการบริการที่ครอบคลุมจาก GoDaddy บทต่อท้ายและภาคผนวก 2 นี้ถือว่าได้ยอมรับและดำเนินการแล้วโดยและระหว่างคณะบุคคล

คำจำกัดความของการวัดผลเชิงเทคนิคและเชิงองค์กรที่นำมาปรับใช้โดยผู้นำเข้าข้อมูลอันเป็นไปตามข้อกำหนด 4(ง) และ 5(ค) (หรือเอกสาร/บทบัญญัติแห่งกฎหมายตามที่แนบมา):

การวัดผลการรักษาความปลอดภัยเชิงเทคนิคและเชิงองค์กรที่ผู้นำเข้าข้อมูลได้นำมาปรับใช้ถูกอธิบายไว้ในบทต่อท้าย โดยระบุไว้เป็นพิเศษในภาคผนวก 2 ซึ่งรวมเข้าไว้และแนบมากับบทต่อท้ายนี้


1              ข้อกำหนดที่บังคับใช้กับบทบัญญัติแห่งกฎหมายของประเทศต่อผู้นำเข้าข้อมูลซึ่งไม่ได้เกินกว่าขอบเขตที่จำเป็นในสังคมประชาธิปไตยโดยอ้างตามหนึ่งในรายการที่เป็นที่สนใจในมาตรา 13(1) ของคำสั่งคุ้มครองข้อมูล 95/46/EC อันประกอบด้วยการวัดผลที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับประเทศ การปกป้อง การรักษาความปลอดภัยแก่สาธารณชน การป้องกัน การตรวจหาข้อเท็จจริง การตรวจจับและการดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา หรือการฝ่าฝืนจรรยาบรรณในการประกอบอาชีพตามที่ได้บัญญัติไว้ ความสำคัญในด้านเศรษฐกิจหรือผลประโยชน์ทางการเงินของรัฐ หรือการคุ้มครองเจ้าของข้อมูล หรือสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลอื่น ซึ่งไม่ได้อยู่ในความขัดแย้งของข้อสัญญามาตรฐาน ตัวอย่างของข้อกำหนดที่บังคับใช้บางข้อ ซึ่งไม่ได้มีขอบเขตเกินจำเป็นในสังคมประชาธิปไตย อาทิ ในระหว่างหลายๆ สิ่ง มีการอนุมัติอย่างเป็นทางการที่เป็นที่จดจำได้ในระดับสากล ข้อกำหนดในการรายงานภาษี หรือข้อกำหนดในการรายงานการป้องกันการฟอกเงิน

หากท่านต้องการความช่วยเหลือ โปรดโทรติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ที่ 02-105-6194

เรายินดีรับคำขอช่วยเหลือจากคุณ

GoDaddy guides GoDaddy guides

ราคาไม่รวมภาษี ค่าธรรมเนียม ICANN รวมไว้แล้ว

  • เกี่ยวกับ GoDaddy
    • เกี่ยวกับเรา
    • ติดต่อเรา
    • ศูนย์ความเชื่อถือ
    • ด้านกฎหมาย
  • การสนับสนุน
    • การสนับสนุนผลิตภัณฑ์
    • แจ้งการละเมิด
  • ทรัพยากร
    • เว็บเมล
    • WHOIS
    • แค็ตตาล็อกสินค้า
    • แผนผังไซต์
  • โปรแกรมพันธมิตรทางธุรกิจ
    • ผู้แนะนำสมาชิก
    • ตัวแทนจำหน่าย
  • บัญชี
    • ผลิตภัณฑ์ของฉัน
    • การต่ออายุ และการเรียกเก็บเงิน
    • สร้างบัญชี
  • ช้อปปิ้ง
    • โดเมน
    • เว็บไซต์
    • WordPress
    • โฮสติ้ง
    • การรักษาความปลอดภัยของเว็บ
    • อีเมลและ Office
    • โปรโมชัน

ไทย - ไทย
เลือกประเทศ/ภูมิภาคของคุณ
  • Argentina - Español
  • Australia - English
  • België - Nederlands
  • Belgique - Français
  • Brasil - Português
  • Canada - English
  • Canada - Français
  • Chile - Español
  • Colombia - Español
  • Danmark - Dansk
  • Deutschland - Deutsch
  • España - Español
  • Estados Unidos - Español
  • France - Français
  • Hong Kong - English
  • India - English
  • India - हिंदी
  • Indonesia - Bahasa Indonesia
  • Ireland - English
  • Israel - English
  • Italia - Italiano
  • Malaysia - English
  • México - Español
  • Nederland - Nederlands
  • New Zealand - English
  • Norge - Bokmål
  • Österreich - Deutsch
  • Pakistan - English
  • Perú - Español
  • Philippines - English
  • Polska - Polski
  • Portugal - Português
  • Schweiz - Deutsch
  • Singapore - English
  • South Africa - English
  • Suisse - Français
  • Suomi - Suomi
  • Sverige - Svenska
  • Svizzera - Italiano
  • Türkiye - Türkçe
  • United Arab Emirates - English
  • United Kingdom - English
  • United States - English
  • Venezuela - Español
  • Việt Nam - Tiếng Việt
  • Ελλάδα - Ελληνικά
  • Россия - Русский
  • Україна - Українська
  • الإمارات العربية المتحدة - اللغة العربية
  • ไทย - ไทย
  • 대한민국 - 한국어
  • 台灣 - 繁體中文
  • 新加坡 - 简体中文
  • 日本 - 日本語
  • 香港 - 繁體中文
THB
  • ด้านกฎหมาย
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • การตั้งค่าการโฆษณา
  • คุกกี้
ลิขสิทธิ์ © 1999 - 2020 GoDaddy Operating Company, LLC. สงวนลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้าแบบตัวอักษรของ GoDaddy คือเครื่องหมายการค้าที่ลงทะเบียนของ GoDaddy Operating Company, LLC ในประเทศสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ โลโก้ "GO" คือเครื่องหมายการค้าที่ลงทะเบียนของ GoDaddy.com, LLC ในประเทศสหรัฐฯ
การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นไปตามเงื่อนไขการใช้งานเเบบเอ๊กเพรส การใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าคุณยอมรับเงื่อนไขการให้บริการสากลนี้